เปิดประวัติ เกฟิน เดอ บรอยน์ ผู้เป็นหัวใจสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประวัติและข้อมูลล่าสุดของ เกฟิน เดอ เบรยเนอ ดาวเตะทีมชาติเบลเยียม

เกฟิน เดอ เบรยเนอ เป็นนักเตะชาวเบลเยียมที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1991 ในเมือง ดรองเก้น เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับสโมสรเคอาร์ซีเกงค์ในเบลเยียม ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับเชลซี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก 

 เควิน เดอ บรอยน์

เกฟิน เดอ เบรยเนอ ย้ายมาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2015 และกลายเป็นผู้นำทีมที่สำคัญ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย 

 รวมถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยล่าสุด 2022-23  

 ล่าสุดเขาต่อสัญญาฉบับใหม่กับซิตี้ถึงปี 2025 

สำหรับการค้าแข้งกับทีมชาติเบลเยียม เกฟิน เดอ บรอยน์ เป็นกัปตันทีมและถือเป็นหัวใจสำคัญ เขาคว้าแชมป์กับทีมถึง 3 สมัย 

 โดยเฉพาะการพาทีมคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย 

 ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2022 เขาทำประตูพาเบลเยียมชนะเนเธอร์แลนด์ 1-0 ในเนชันส์ลีก 

อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บหัวหน่าว ทำให้เดอ บรอยน์ถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติเบลเยียมชุดที่เตรียมทำการแข่งขันเกมอุ่นเครื่องกับไอร์แลนด์และอังกฤษในเดือนมีนาคม 2024  เพื่อให้มีร่างกายสมบูรณ์พร้อมกลับมาลงสนามกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ข้อมูลนักเตะ

  • ชื่อเต็ม: เกฟิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne)
  • วันเกิด: 28 มิถุนายน 1991 (อายุ 32 ปี)
  • สถานที่เกิด: ดรอนเก้น ประเทศเบลเยียม
  • สโมสรปัจจุบัน: แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • ตำแหน่ง: กองกลางตัวรุก
  • ส่วนสูง: 181 เซนติเมตร

เกฟิน เดอ บรอยน์ กองกลางคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เกฟิน เดอ เบรยเนอ เป็นนักเตะชาวเบลเยียมที่ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในรุ่นของเขา เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งในโลก 

เกฟิน เดอ บรอยน์ เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรในบ้านเกิด เกงค์ ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมเชลซีในปี 2012 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

เควิน เดอ บรอยน์

หลังจากนั้น เดอ บรอยน์ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรในบุนเดสลีกาอย่าง แวร์เดอร์ เบรเมน และ โวล์ฟสบวร์ก ก่อนที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะคว้าตัวเขามาร่วมทีมในปี 2015 

 ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ เดอ บรอยน์กลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของซิตี้ในขณะนั้น

ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดอ บรอยน์ได้พิสูจน์ฝีเท้าจนกลายเป็นกองกลางคนสำคัญของทีม เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสรถึง 4 สมัย ในปี 2015–16, 2017–18, 2019–20 และ 2021 

 นอกจากนี้ เดอ บรอยน์ยังได้รับรางวัล PFA Players’ Player of the Year 2 สมัยติดต่อกันในปี 2020 และ 2021 

ณ ปัจจุบัน เดอ บรอยน์ลงสนามให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปแล้ว 255 นัด ทำไป 101 แอสซิสต์ และ 65 ประตู 

 เขาเป็นผู้นำทีมคนสำคัญ และมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์หลายรายการ รวมถึงพรีเมียร์ลีกถึง 4 สมัย

เส้นทางลูกหนังของ เกฟิน เดอ บรอยน์

เกฟิน เดอ บรอยน์ เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งในวัยเด็กกับสโมสรกาเฟเฟ่ ดรอนเก้น ในเมืองบ้านเกิด  ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับสโมสรเกนด์ในลีกเบลเยียมเมื่ออายุ 14 ปี  ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่น เขาได้รับการคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในอนาคต

 

เควิน เดอ บรอยน์

หลังจากนั้น เดอ บรอยน์ได้ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำอย่าง เชลซี ในปี 2012 แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ จึงถูกปล่อยตัวให้กับสโมสร แวร์ฟ วูล์ฟเวแกน เมื่อปี 2014  ก่อนที่จะกลายเป็นนักเตะคนสำคัญและได้ย้ายมาค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2015

ที่ซิตี้ เดอ บรอยน์ได้พัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นกองกลางตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก  เขาช่วยพาทีมคว้าแชมป์หลายรายการ ทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาวคัพ และแชมป์เปี้ยนส์ลีก  นอกจากนี้ เดอ บรอยน์ยังเป็นกัปตันทีมชาติเบลเยียมและนำทีมไปแข่งขันฟุตบอลโลกหลายสมัย ด้วยทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำ วิสัยทัศน์ในสนาม และความเป็นผู้นำ เควิน เดอ บรอยน์ถือเป็นหนึ่งในกองกลางที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคนี้ 

ผลงานกับทีมชาติ เกฟิน เดอ เบรยเนอ

เกฟิน เดอ เบรยเนอ ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมชาติเบลเยียม โดยเขาติดทีมชาติชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2010   และเป็นหนึ่งในตัวหลักในการพาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย  

ในทีมชาติเบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ เป็นหนึ่งในสามประสานแนวรุกที่น่ากลัวร่วมกับ เอแดน อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู โดยตั้งแต่เริ่มติดทีมชาติมา เดอ บรอยน์ลงสนามไปแล้วกว่า 99 นัด ทำไปแล้ว 26 ประตู  

 นับเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของทีมชาติเบลเยียม

ล่าสุด เดอ บรอยน์เพิ่งจะพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ก่อนจะต้องร่วงไปอย่างน่าเสียดายจากการพลาดจุดโทษในการดวลจุดโทษกับโครเอเชีย

สรุปผลงานกับทีมชาติ:

  • ติดทีมชาติเบลเยียมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2010
  • ลงเล่นให้ทีมชาติเบลเยียมไปแล้ว 97 นัด ยิงประตูได้ 25 ประตู
  • ผลงานที่ดีที่สุดกับทีมชาติคืออันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2018

ผลงานกับสโมสรของ เกฟิน เดอ บรอยน์

 ผลงานกับสโมสร เกฟิน เดอ บรอยน์ มีผลงานสุดยอดตลอดการค้าแข้งให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งก้าวมาเป็นหนึ่งในนักเตะสำคัญของสโมสรได้อย่างรวดเร็ว  

เขาช่วยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 5 สมัย รวมถึงแชมป์เอฟเอคัพ, เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์, และเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ในการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2023/24  

  นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ทำลายสถิติผู้ทำแอสซิสต์เร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยทำไปแล้ว 100 แอสซิสต์ในเวลาเพียง 237 นัด   

ด้วยฟอร์มและผลงานสุดยอดนี้เองทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในนักเตะชั้นยอดและกองกลางที่ดีที่สุดในโลก รวมถึงกวาดรางวัลส่วนตัวต่างๆ มามากมาย

สรุปผลงานกับสโมสร:

แมนเชสเตอร์ ซิตี้:

  • พรีเมียร์ลีก: 4 สมัย (2017-18, 2018-19, 2020-21, 2021-22)
  • เอฟเอ คัพ: 1 สมัย (2018-19)
  • ลีกคัพ: 6 สมัย (2017-18, 2018-19, 2019-20, 2020-21, 2021-22, 2022-23)
  • คอมมิวนิตี้ ชิลด์: 2 สมัย (2018, 2019)

รางวัลส่วนตัวที่โดดเด่น ของ เกฟิน เดอ บรอยน์

รางวัลส่วนตัวที่โดดเด่นของ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีคุณภาพสูงสุดในปัจจุบัน ด้วยการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 2 สมัยติดต่อกันในปี 2020 และ 2022  รวมทั้งรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ

  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 2019/20 และ 2021/22 
  •  รางวัล PFA Player of the Year 2 สมัย (2020 และ 2022) 
  • รางวัล Premier League Playmaker Award 3 สมัย 
  • รางวัล Goal of the Month 2 สมัย 
  • รางวัล Northwest Football Awards 2022 

เควิน เดอ บรอยน์ ยังเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 5 สมัย  ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จของเขากับสโมสร

ข้อมูลน่าสนใจเกียวกับ เกฟิน เดอ บรอยน์

เควิน เดอ บรอยน์เป็นนักเตะชาวเบลเยียมที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยม มีหลายเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเขา

เควิน เดอ บรอยน์

จุดเริ่มต้นของ เกฟิน เดอ บรอยน์

เดอ บรอยน์เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งในวัยเด็กกับ เกนค์ สโมสรในบ้านเกิด และวางรากฐานอาชีพนักฟุตบอลอาชีพที่ กาเฟเฟ่ ดรอนเก้น  

 หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปร่วมทีมหนุ่มของ เกงค์ และประสบความสำเร็จจนถูกดึงไปร่วมทีมเชลซีในปี 2012

การหนีจาก เชลซี สู่ ดาวรุ่งแห่งบุนเดสลีกา

แม้เดอ บรอยน์จะไม่ประสบความสำเร็จกับเชลซีมากนัก แต่เขาได้แจ้งเกิดอย่างสุดยอดในบุนเดสลีกากับ ไวร์เดอร์ เบรเมน และ วอล์ฟสบวร์ก  

 จนกระทั่งย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 68 ล้านปอนด์

ยอดนักเตะแห่งพรีเมียร์ลีก

เดอ บรอยน์กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยเขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2021-22  

 นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ครองสถิติการทำแอสซิสต์สูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกอีกด้วย

ชีวิตส่วนตัว

นอกสนามหญ้า เดอ บรอยน์ มีภรรยาและลูก 3 คน เขาเป็นคนที่มีนิสัยก้าวร้าวและมุ่งมั่น ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จในวงการลูกหนัง  

เหล่านี้คือข้อมูลน่าสนใจบางส่วนเกี่ยวกับสตาร์ดังจากเบลเยียม เควิน เดอ บรอยน์ หนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลกในปัจจุบัน

Tags : , , , ,