รู้จักกับประวัติของโปรแกรมพรีเมียร์ลีก

โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการแข่งขันที่มีความสนุกสนานสูงและน่าดึงดูดระดับโลก เป็นองค์กรที่มีการพัฒนาอย่างน่าทึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้ง ในวันนี้บ้านผลบอลจะพาคุณไปรู้จักกับโปรแกรมพรีเมียร์ลีก ว่ามันมีความน่าสนใจ หรือทำไมมันถึงกลายเป็นองค์กรระดับโลกที่ไม่ว่าคุณจะเป็นสโมสรฟุตบอลใหม่หรือเก่า ก็ย่อมต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการแข่งขันโปรแกรมพรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอน

 

ยุคมืดของฟุตบอลอังกฤษ

ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ฟุตบอลอังกฤษตกอยู่ในภาวะวิกฤติ The First Division ซึ่งก่อตั้งในปี 1888 กำลังสูญเสียเสน่ห์ไปและเริ่มไม่มีใครสนใจ สนามกีฬากำลังเสื่อมโทรม ความรุนแรงของแฟนบอลก็แพร่ระบาด และภัยพิบัติที่สนามกีฬาเฮย์เซล ส่งผลให้สโมสรในอังกฤษถูกแบนจากยุโรปเป็นเวลา 5 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับเซเรียอาของอิตาลีและลาลีกาของสเปน ลีกอังกฤษยังล้าหลังทั้งผู้เข้าชมและรายได้ ช่วงนี้ยังมีการย้ายทีมของผู้มีความสามารถจากอังกฤษไปเล่นในลีกต่างประเทศอีกด้วย

พลิกกระแสในปี 1990

ทศวรรษ 1990 ถือเป็นจุดเปลี่ยน การปรากฏตัวรอบรองชนะเลิศของอังกฤษในฟุตบอลโลกปี 1990 และการยกเลิกการแบนของยุโรป เนื่องจากชัยชนะคัพวินเนอร์สคัพของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1991

ถือเป็นสัญญาณของการฟื้นฟูของฟุตบอลในอังกฤษ ทางองค์กรในตอนนั้นต่อการตอบสนองต่อภัยพิบัติฮิลส์โบโร จึงมีการอัปเกรดสนามกีฬาราคาแพงเพื่อปรับปรุงความปลอดภัย ส่งสัญญาณถึงยุคใหม่ของการรับชมฟุตบอลและเพิ่มประสบการณ์ของแฟนๆให้การดูฟุตบอลนั้นสนุกสนานและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

วิวัฒนาการทางธุรกิจ

ในช่วงทศวรรษ 1980 ผู้นำสโมสรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลเช่น Martin Edwards (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด), Irving Scholar (ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์) และ David Dein (Arsenal) เริ่มมองว่าสโมสรเสมือนเป็นการร่วมลงทุนทางธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนี้นำไปสู่การแย่งชิงอำนาจเพื่อรายได้ทางโทรทัศน์ ซึ่งกำลังมีกำไรเพิ่มมากขึ้น ภายในปี 1988 ฟุตบอลลีกได้ทำข้อตกลงทางโทรทัศน์มูลค่า 44 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดอย่างมากจากข้อตกลง 6.3 ล้านปอนด์ในปี 1986

การเริ่มต้นของโปรแกรมพรีเมียร์ลีก

แนวคิดสำหรับโปรแกรมพรีเมียร์ลีกได้รับการเผยแพร่ครั้งแรกในปี 1990 โดยเกร็ก ไดค์ แห่งลอนดอนวีคเอนด์เทเลวิชัน ซึ่งมองเห็นศักยภาพในการมุ่งเน้นไปที่สโมสรที่ใหญ่กว่าสำหรับการออกอากาศทางโทรทัศน์ การหารือกับสโมสร “บิ๊กไฟว์” (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, เอฟเวอร์ตัน และอาร์เซนอล) ทำให้ต่อมาในปี 1992 โปรแกรมพรีเมียร์ลีกได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ

ความเหนือกว่าของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ช่วงปีแรกๆ ของโปรแกรมพรีเมียร์ลีก เรียกได้ว่าในตอนนี้ผู้ถือครองแชมป์คือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ภายใต้การบริหารของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน การผสมผสานของผู้เล่นมากประสบการณ์และพรสวรรค์ที่หาตัวจับได้ยาก ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ได้มากมายในช่วงทศวรรษ 1990

การเกิดขึ้นของ “บิ๊กโฟร์”

ทศวรรษ 2000 โดดเด่นด้วยการครอบงำของ “บิ๊กโฟร์” – อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทีมเหล่านี้อยู่ในอันดับต้นๆ ของลีกอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีส่วนร่วมในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอย่างสม่ำเสมอ ฤดูกาลที่ไม่แพ้ใครของอาร์เซนอลในปี 2003-04 ทำให้พวกเขาได้รับสมญานามว่า “The Invincibles” ถือเป็นจุดเด่นของยุคนี้

การเกิดขึ้นของ “บิ๊กซิก”

ช่วงปลายทศวรรษ 2000 และต้นทศวรรษ 2010 มีการขยายตัวของกลุ่มหัวกะทิเพื่อรวมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชัยชนะในลีกของแมนเชสเตอร์ซิตี้ในปี 2011-12 โดยได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนจำนวนมาก ยุติการผูกขาดของบิ๊กโฟร์ที่มีมายาวนาน และส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงในพลวัตของอำนาจของลีก

อำนาจทางการเงินและอิทธิพลระดับโลก

นอกสนาม สโมสร “บิ๊กซิกซ์” ใช้อิทธิพลทางการเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งมักก่อให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ภายในลีก รายได้ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยสโมสรเหล่านี้ติดหนึ่งในสิบสโมสรฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ต้องขอบคุณข้อตกลงทางโทรทัศน์ที่มีกำไรและความร่วมมือทางการค้า ซึ่งนี่ก็ทำให้หลาย ๆ สโมสรเริ่มตั้งคำถามว่านี่มันถูกต้องแล้วหรือที่มีเพียงแค่สโมสรไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่มีอำนาจมากขนาดนี้ในโปรแกรมพรีเมียร์ลึก

แนวโน้มและการพัฒนาในอนาคต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โปรแกรมพรีเมียร์ลีกเปิดรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น VAR และเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ รวมถึงการปรับตารางการแข่งขันฟุตบอลโลกฤดูหนาวปี 2022 โปรแกรมพรีเมียร์ลีกยังแสดงให้เห็นถึงความเต็มใจที่จะเคารพและบูรณาการแนวทางปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่น การถือศีลอดเดือนรอมฎอนในระหว่างการแข่งขัน

บทสรุป

การเดินทางของโปรแกรมพรีเมียร์ลีกจากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายและมีปัญหาจนกลายเป็นลีกฟุตบอลที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกคือเรื่องราวที่ยิ่งกว่านิยาย ด้วยสิ่งนี้จึงทำให้โปรแกรมพรีเมียร์ลีกถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ห้ามพลาด

Tags : โปรแกรมพรีเมียร์ลีก