ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล ตำนานหงส์แดง ‘You’ll never walk alone’

ประวัติโดยย่อของสโมสรฟุตบอลอังกฤษ ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูลก่อตั้งในปี 1892 เมื่อพูดถึงชื่อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ก็จะนึกถึงว่าเป็นสโมสรที่ชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์ระดับโลก ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล คว้าถ้วยรางวัลยุโรปมามากมายนับไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีสโมสรผู้สนับสนุนมากกว่า 200 สโมสรในอย่างน้อย 50 ประเทศ อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์อันงดงามของพวกเขาจะต้องเจอกับเรื่องอุปสรรคและโศกนาฏกรรมการแข่งขันที่เลวร้ายที่สุดตลอดกาลสองครั้ง นั่นคือ ที่เฮย์เซล และ ฮิลส์โบโรห์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสโมสรลิเวอร์พูลนั้นยังคงครองอันดับต้นๆของทุกลีกการแข่งขันระดับโลกได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง

สามารถติดตามโปรแกรมลิเวอร์พูลล่าสุดได้ที่นี่

ลิเวอร์พูลยุคแรก

ทีมลิเวอร์พูลชุดแรก

ประวัติสโมสร ลิเวอร์พูล

จอห์น โฮลดิง ผู้ประธานสโมสรเป็นเจ้าของสนามแอนฟิลด์ แต่ไม่มีทีมให้เล่นในสนามนั้น โฮลดิง เริ่มต้นด้วยการก่อตั้งสโมสรของเขาเอง นั่นก็คือ ‘ลิเวอร์พูล’ หลังจากที่เอฟเวอร์ตัน ย้าย มาอยู่ที่กูดิสัน พาร์กในปี 1892

หลังจากเข้าเป็นสมาชิกของฟุตบอลลีกในปี 1893 ทีมก็สามารถเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้หลังจบดิวิชั่น 2 ไปหนึ่งฤดูกาล ในช่วงแรก ลิเวอร์พูล สถาปนาตนเองเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของอังกฤษ โดยคว้าแชมป์ลีกได้ในปี 1901, 1906, 1922 และ 1923

บิล แชงคลีย์

ผู้ก่อตั้ง สโมสรลิเวอร์พูล

ยุค บิล แชงคลีย์

ถึงแม้จะเป็นสโมสรที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนั้น แต่สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลกลับไม่ค่อยมีความคงเส้นคงวาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ในปี พ.ศ. 2490 สโมสรก็เข้าสู่ช่วงยุคตกอันดับ ซึ่งจบเกมลงด้วยการตกชั้นสู่ดิวิชั่น 2 ในปี 1954 สิ่งต่างๆ พลิกผันไปในทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากที่บิลล์ แชงคลี ได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีม ภารกิจแรกของ แชงคลี คือการปล่อยตัวทีมชุดใหญ่ทั้งหมด จากนั้นเขาก็เปลี่ยนห้องเก็บของสโมสรให้เป็น “ห้องรองเท้า” อันโด่งดัง ซึ่งเป็นสถานที่พบปะลับๆของโค้ชมานานมากกว่า 10 ปี

หลังจากที่แชงคลีย์เปลี่ยนวิธีการคุมทีม ทำให้ทีมกลับมาสู่ดิวิชั่น 1 ในปี 1962 ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกในอีก 2 ปีต่อมา ระหว่างที่แชงคลีย์ทำหน้าที่ตำแหน่งผู้จัดการทีม พวกเขาคว้าแชมป์ลีกเพิ่มเติมอีก 2 สมัย (1966, 1973), เอฟเอ คัพ  2 สมัย (1965, 1974) รวมถึงถ้วยยุโรปถ้วยแรกของพวกเขา – ยูฟ่าคัพปี 1973 ในปี 1974 แชงคลี ลาออกจากทีมเนื่องจากจำเป็นต้องหยุดพัก โดยปล่อยให้สโมสรอยู่ในมือของผู้ช่วยของเขา บ็อบ เพสลีย์

บิล แชงคลีย์

บิล แชงคลีย์ อดีดผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล

ยุคสะสมถ้วยรางวัล

ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งในทีมลิเวอร์พูลก็ยังพัฒนาผลงานอย่างต่อเนื่องภายใต้การคุมทีมของ เพสลีย์ ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่คงฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอ ในช่วง 9 ปีที่เขาคุมทีม สโมสรคว้าแชมป์ลีก 6 สมัยและลีกคัพ 3 สมัย ชื่อเสียงของพวกเขาเลื่องลือไปทั่วยุโรปเช่นกัน  ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพ 1 รายการและถ้วยยุโรป 3 ถ้วยในช่วงระหว่างปี 1976 ถึง 1981 หลังจากที่ เพสลีย์ เกษียณอายุในปี 1983 ผู้ช่วยของเขา โจ เฟแกน ยังคงสานต่อความยิ่งใหญ่ประสบความสำเร็จโดยนำทีมคว้าแชมป์ 3 ครั้งในฤดูกาลนี้

โศกนาฏกรรมเฮย์เซล และ ฮิลส์โบโรห์

ในปี 1985 ลิเวอร์พูลเผชิญหน้ากับยูเวนตุสในรอบชิงชนะเลิศถ้วยยุโรป น่าเสียดายที่การแข่งขันครั้งนั้น เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกว่าเป็นโศกนาฏกรรมเฮย์เซล  หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้อัฒจรรย์ที่นั่งเชียร์การแข่งขันพังล้มทับแฟนบอล จนทำให้มีผู้ชีวิต 39 คน  เมื่อพิจารณาว่า ผลจากเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นครั้งนี้เกิดจากแฟนบอลลิเวอร์พูล สโมสรในอังกฤษ ทั้งหมดถูกสั่งห้ามเข้าแข่งขันฟุตบอลยุโรปทุกรายการเป็นเวลา 6 ปี

heysel-stadium-disaster

โศกนาฏกรรมเฮย์เซล

ในช่วงที่ไม่มีเกมยุโรป ลิเวอร์พูลเริ่มมุ่งเน้นไปที่การแข่งขันในประเทศ แต่หลังจากคว้าแชมป์ลีกได้อีก 2 รายการในปี 1986 และ 1988 และเอฟเอ คัพ ในปี 1985 โศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ในเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ปี 1989 ในการแข่งขันลิเวอร์พูลและน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มีแฟนบอลเสียชีวิตจากการเบียดเสียดจนหายใจไม่ออก 94 คน เพียง 6 นาทีหลังจากเกมเริ่ม จนถึงทุกวันนี้ โศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ยังคงเป็นโศกนาฏกรรมสนามกีฬาที่เลวร้ายที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ

hillsborough-stadium-tragedy

โศกนาฏกรรมฮิลส์โบโรห์

หลังจากคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 9 ในปี 1990 ลิเวอร์พูลก็เข้าสู่สภาวะฟอร์มทีมที่ตกต่ำลง คว้าถ้วยรางวัลจากลีกรองและลีกระดับปานกลางเพียงไม่กี่ถ้วย ในช่วงปี 1990s และต้นปี 2000 ที่ดูเหมือนว่าตำแหน่งดาวรุ่งของลิเวอร์พูลจะหายไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้พิสูจน์ฝีเท้าได้อย่าน่าประทับใจหลังจากเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2005 พวกเขาก็ฟื้นตัวจาก 3-0 ในครึ่งแรกและในที่สุดก็สามารถเอาชนะมิลานด้วยการดวลจุดโทษ

ปรากฏว่าชัยชนะอันแสนพิเศษก็ได้กำเนิดเพลงหงส์ของสโมสร ลิเวอร์พูลมักจะถูกมองว่าเป็นอันดับ 2 รองจากสโมสรอื่นๆ ในอังกฤษ โดยมีเพียงสองถ้วยรางวัลในลีกคัพและจบเกมด้วยอันดับ 2 ในลีกจากความพยายามของพวกเขาในช่วง 10 ปีถัดมา

การกลับสู่ยุครุ่งเรือง

ลิเวอร์พูลเกือบจะคว้ารองแชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2002, 2014 และ 2019 แต่ในปี 2020 ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ลิเวอร์พูลที่นำโดยโค้ชชาวเยอรมัน เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกได้สำเร็จ แดงเดือดทั้งแผ่นดิน หลังจากนั้นการแข่งขันฟุตบอลก็ถูกระงับในช่วงระยะเวลาหนึ่งเนื่องจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส

โลโก้สโมสร

 

จุดเด่นของโลโก้คือภาพวาดของ นกลิเวอร์เบิร์ด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลิเวอร์พูล และจะเห็นสัญลักษณ์นี้ได้ในตึกรอยัลลิเวอร์ (Royal Liver Building) ในเมืองลิเวอร์พูล ที่ส่วนบนของโลโก้ เขียนว่า Liverpool FC และมีข้อความอันโด่งดังเขียนว่า “You’ll never walk alone”

ไทม์ไลน์ที่สำคัญของสโมสรลิเวอร์พูล

ปีค.ศ. 1892 สโมสรได้ก่อตั้งขึ้น

ปีค.ศ. 1893 สมาชิกของฟุตบอลลีก

ปีค.ศ. 1894 ฤดูกาลแรกในดิวิชั่น 1

ปีค.ศ. 1901 คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 เป็นครั้งแรก

ปีค.ศ. 1959 บิล แชงคลี ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม

ปีค.ศ. 1965 คว้าแชมป์เอฟเอคัพครั้งแรก

ปีค.ศ. 1973 ถ้วยยูฟ่าคัพครั้งแรก

ปีค.ศ. 1977 แชมป์ถ้วยยุโรปครั้งแรก

ปีค.ศ. 1981 แชมป์ลีกคัพครั้งแรก

ปีค.ศ. 1981 คว้าแชมป์บริติชดับเบิลครั้งแรก (ลีกและลีกคัพ)

ปีค.ศ. 1984 คว้าแชมป์เทรเบิลครั้งแรก (ลีก, ลีกคัพ และยูโรเปี้ยนคัพ)

ปีค.ศ. 1984 เอียนรัชยิงได้ 47 ประตูระหว่างฤดูกาล ปีค.ศ.  1983–84  ทำลายสถิติของสโมสร

ปีค.ศ. 1985 โศกนาฏกรรมที่สนามกีฬาเฮย์เซล

ปีค.ศ. 1989 อุบัติเหตุฮิลส์โบโร่

ปีค.ศ. 2005 คว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศ แชมป์เปี้ยนส์ลีกครั้งแรก

ปีค.ศ. 2006 นักธุรกิจชาวอเมริกัน ทอม ฮิกส์ กลายเป็นเจ้าของสโมสรคนใหม่

ปีค.ศ. 2018 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ถูกขายให้กับบาร์เซโลน่าในราคา 142 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติการย้ายทีมใหม่ของสโมสร

ปีค.ศ. 2020 แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก

 

Tags :